บทที่ 7 6
“บราโว !”
จู่ ๆ เมธาที่มาเฝ้าอารยาเป็นเพื่อนประกายแก้วก็ร้องขึ้นมาเสียงดัง ทำเอาทุกคนตกอกตกใจไปตาม ๆ กัน
“อะไรของแกวะ ร้องยังกะขี้ไม่ออก” ประกายแก้วปากจัดเหมือนเดิม เอาจริง ๆ เพื่อนในกลุ่มมีปากเป็นอาวุธทุกคนยกเว้นอารยา ไม่แปลกใจหรอกที่เธอจะเถียงไม่ชนะปราปต์สักที
“นี่ ๆ มึงดูนี่ซะก่อนไอ้ปราปต์ส่งมา” ท่าทางของเมธาตื่นเต้นมากจนประกายแก้วรีบเดินเข้าไปดูมือถือเขาส่วนอารยาแม้อยากรู้แต่ก็ไม่อยากขยับตัว
“เห้ย !”
“ไอ้ปราปต์แม่งเด็ดสัส ในที่สุดมันก็สอยฟ้างามจนได้”
พูดไม่ทันคิดก็ถูกประกายแก้วตีแขนเต็มแรง
“ไอ้เมธ”
ทั้งสองสบตากัน แรกทีเดียวเมธาก็ไม่เข้าใจแต่พอนึกได้ว่าอารยาอยู่ในห้องนี้ด้วยเหมือนกันเขาก็อยากจะตบปากตัวเอง แต่อารยาก็ไม่ได้ถือสาแม้ว่าน้ำตาจะเริ่มคลอเบ้าแล้วก็ตาม
“ปราปต์คงได้เป็นแฟนกับงามแล้วสินะ”
ทั้งสองพยักหน้า อารยายิ้มเจื่อน ๆ เป็นการฝืนยิ้มที่ทรมานที่สุดในชีวิตเลยทีเดียว
“แกโอเคนะเว้ย”
“อือ”
ฉีกยิ้มอีกนิดเพื่อนจะได้วางใจแต่ใครก็มองออกว่าเธอเศร้าแค่ไหน เมธาก็สงสารเพื่อนเหมือนกัน ความจริงที่งานเลี้ยงเปิดฟาร์มวันนั้นแม้จะไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์แต่ฟังจากที่ประกายแก้วเล่าเขาก็คิดว่าปราปต์ทำเกินไป
“โอ๊ย ไอ้อ้อนมันก็ไม่ได้เจออไอ้ปราปต์มาหลายเดือนแล้ว มันทำใจได้แล้วแหละ...ใช่ไหมมึง”
คนตัวใหญ่เดินเข้าไปตบไหล่เพื่อนอย่างเชื่อมั่น อารยาพยักหน้าแกน ๆ หากทั้งสองรู้ว่าปราปต์ไปนอนกับเธอที่บ้านทุกคืนคงต้องช็อก โชคดีที่ปองกลับไปก่อนไม่อย่างนั้นคงถูกซักจนเปื่อยแน่ ๆ ว่าไปยังไงมายังไง
เธอไม่อยากให้ใครรู้เรื่องนี้อีกแล้ว และปราปต์ก็ได้เป็นแฟนกับฟ้างามสมใจแล้ว ต่อไปเขายังจะไปนอนที่บ้านเธออยู่หรือเปล่า หรือจะเอายังไงกับความสัมพันธ์ลับ ๆ นี้กันล่ะ อารยาคิดไม่ตกและไม่อยากคิด
“กาย ออกโรง’บาลแล้วอ้อนไปอยู่กับกายสักสองสามวันได้ไหม”
“ได้ ไม่มีปัญหา ไปอยู่หลาย ๆ วันก็ได้ไม่ต้องเกรงใจ”
“มึงสองตัวคิดไรกันป่าววะ” เมธาแสร้งทำหน้าคอย่นหมายจะล้อเลียนเพื่อนแต่กลับถูกประกายแก้วเขกหน้าผากทีนึง
“มึงแม่งวอนโดนตีน !” เขาว่าเพื่อนที่รู้ใจกันและรักกันมาก ๆ มักจะชอบกัดกันแบบนี้เสมอ แน่นอนว่ามันสร้างรอยยิ้มให้อารยาในยามที่ความรู้สึกของเธอหดหู่ แต่ก็รู้สึกว่าระหว่างสองคนนี้มีบางอย่างที่เริ่มเปลี่ยนไป
โดยเฉพาะตอนที่ทั้งสองคนมองตากัน...
เพราะโครงการนมโรงเรียนที่อารยารับผิดชอบจะต้อง
เกี่ยวข้องกับปราปต์อย่างเลี่ยงไม่ได้ เนื่องจากฟาร์มศุภโชคชนะการประมูลโครงการ เลยตัดสินใจมอบหมายให้ฟ้างามเป็นคนรับผิดชอบแทน ซึ่งมตินี้ผ่านที่ประชุมของคณะกรรมโรงเรียนเรียบร้อย ส่วนหนึ่งคงเพราะหลายท่านรู้เรื่องความบาดหมางระหว่างครูคนสวยกับอดีตเพื่อนซึ่งเกิดขึ้นเมื่อวันเปิดฟาร์ม
“ครบแล้วนะคะ”
ฟ้างามบอกกับปราปต์ที่วันนี้เขาทำหน้าที่ขับรถมาส่งนมด้วยตัวเอง ทั้งที่ปกติจะเป็นหน้าที่ของนายปองลูกน้องเขา แต่ชายหนุ่มชะเง้อมองหาบางคนจนเธอสงสัย
“มองหาใครหรือคะ”
“อ๋อ”
ปราปต์ยิ้มเจื่อน ๆ จะบอกไปว่ามองหาอารยาคงไม่ดีแน่
“ครูกายน่ะครับ เย็นนี้เมธชวนออกไปกินข้าวเลยจะชวนมันไปด้วยซะหน่อย”
“เอ...คุณปราปต์ลืมอะไรหรือเปล่าคะเนี่ย”
เขานิ่วหน้าเมื่อเจ้าหล่อนเปิดประเด็นด้วยสีหน้ายิ้มแย้มมีเลศนัย
“ลืมอะไรครับ”
“ก็วันนี้คุณปราปต์บอกว่าจะไปทานข้าวกับพ่อกำนันของงามไงคะ
ขี้ลืมจังเลย” ฟ้างามแสร้งบ่นแต่ใบหน้าที่ยิ้มแย้มบ่งบอกว่าเธอไม่ถือสา
แต่ปราปต์มีสีหน้าลำบากใจ เขาโมโหตัวเองนิดหน่อยที่รับปากอะไรไม่คิดหน้าคิดหลังเสียก่อน
เย็นนี้เขาคิดว่าจะไปหาอารยาที่บ้านประกายแก้ว หลังจากที่หญิงสาวออกจากโรงพยาบาลก็ไม่ได้เจอกันนานร่วมสัปดาห์เนื่องจากเจ้าหล่อนไม่อยู่บ้าน เขาคิดอยู่นานกว่าจะตัดสินใจได้ในวันนี้
แต่ดันรับปากฟ้างามไว้เสียแล้วนี่สิ
“จริงด้วยสิ สงสัยปราปต์คงต้องยกเลิกนัดนายเมธมันก่อน เพราะยังไงงามก็สำคัญกับผมมากที่สุด ปราปต์น่ารักขนาดนี้งามไม่มีรางวัลอะไรจะให้ปราปต์บ้างเลยหรือครับ” ยื่นหน้าเข้าไปใกล้ ๆ พร้อมกับป่องแก้มรอให้หญิงสาวจุ๊บคืน
“อายเด็ก ๆ ค่ะ”
“ไม่เห็นจะมีใครเลยนะครับงาม” เขายังออดอ้อน ฟ้างามส่ายหน้า
ยิ้ม ๆ หากแต่ถ้าสังเกตดี ๆ เป็นรอยยิ้มไม่เต็มที่เสียเท่าไหร่
“มันไม่งามค่ะ”
แม้จะเป็นเวลาพักเที่ยงนักเรียนอยู่โรงอาหารกันหมดแต่เธอก็กลัวอยู่ดี อีกทั้งที่แห่งนี้ไม่สมควรทำเรื่องดังกล่าว ตอนนั้นเองที่ทั้งได้ยินเสียงอารยาซึ่งวิ่งมาหน้าตาตื่น เจ้าหล่อนก็ตกใจเหมือนกันที่เห็นปราปต์อยู่ตรงนี้
เจอหน้าเขาครั้งนี้หัวใจเธอสั่นไปหมด อีกทั้งไม่คิดว่ารถส่งนมจะมาเวลานี้ แต่เรื่องที่จะมาบอกฟ้างามสำคัญกว่า
“ครูงามจ๊ะ นักเรียนห้องครูงามทะเลาะวิวาทกันใหญ่เลยจ้ะ มีเด็กได้รับบาดเจ็บด้วย”
“ตายจริง เอ่อ คุณปราปต์คะงามขอตัวก่อนนะคะ ไว้เจอกันที่บ้านเย็นนี้เลยเนอะ”
ฟ้างามวิ่งไปที่โรงอาหารโดยไม่รอช้า อารยาที่หยุดหอบหายใจกำลังจะก้าวตามไปแต่ถูกปราปต์กระชากแขนเอาไว้อย่างแรง ร่างเล็กเสียหลักเซมาปะทะแผ่นอกแน่น อารยารีบตั้งหลักแต่ก็ถูกเขากอดทั้งตัว
“ปราปต์ปล่อยเดี๋ยวนี้เลยนะ ให้เกียรติสถานที่บ้าง”
กระนั้นเขาก็ไม่ยอมปล่อยแถมยังกอดแน่นขึ้นอีกต่างหาก
“ปล่อยเหอะ เดี๋ยวคนอื่นมาเห็น” เสียงเริ่มอ่อนลงเมื่อดิ้นจนเหนื่อย “ปราปต์ !” ชายหนุ่มหัวเราะพอใจที่ได้กลั่นแกล้ง ก่อนคลายวงแขนอย่างง่ายดาย แม่ตัวร้ายพอหลุดออกไปได้ก็ไว้ระยะห่างเขาเป็นเมตร
“หน็อย ผัวกอดนิดกอดหน่อยทำเป็นสะดีดสะดิ้ง”
“ที่พูดออกมาละอายใจบ้างไหม ปราปต์เป็นแฟนงามนะ แล้วงามก็เพิ่งไปเมื่อกี้เอง หน้าไม่อายชะมัด”
“เหมือนด่าตัวเองเลยอะ” เขาทำหน้ายียวนแต่ดูเหมือนอารยายังไม่เข้าใจจึงพูดต่อไปว่า “แอบเล่นชู้กับแฟนคนอื่น น่าไม่อายชะมัด”
“พูดอะไรน่ะปราปต์”
ไม่เข้าใจจริง ๆ ว่าเขาต้องการอะไรกันแน่ แล้วที่สำคัญตั้งแต่ปราปต์คบกับฟ้างามเธอก็ไม่เคยยุ่งเกี่ยวกับเขาเลยด้วยซ้ำ สมองเขาคงเก่งแต่เรื่องหาความผิดให้คนอื่นสินะ
“ฉันพูดอะไรผิดหรือ ?”
“ไล่ไทม์ไลน์ดูก็ได้แล้วจะรู้ว่าอ้อนไม่ได้เป็นแบบนั้น”
“แต่ชาวบ้านจะมีเวลามานั่งนับไทม์ไลน์หรือเปล่าน่ะสิ”
ปราปต์ลอยหน้าพูดในสิ่งที่ทำให้อารยาแทบปรี๊ดแตก เขาหมายความว่าจะเอาเรื่องนี้ไปบอกชาวบ้านอย่างนั้นหรือ
แต่ป่วยการและคงเสียเวลาหากจะมาพูดกันเรื่องนี้ อารยาสะบัดหน้าหนีแต่ปราปต์ทำให้เธอต้องชะงักอีกครั้งเพราะคำพูดของเขา
“เย็นนี้ฉันจะไปหาเธอที่บ้าน หวังว่าวันนี้เราจะได้คุยกันซะทีนะ”
หญิงสาวหันขวับกลับมามองเขาด้วยแววตาโกรธเคือง แอบคิดว่าที่ปราปต์จะไปหาเพราะหวังอยากจะทำอะไรแบบนั้นกับเธอ เพราะคนอย่างเขาก็ทำแค่นี้...เธอมีค่ากับเขาเพียงแค่นี้จริง ๆ
“อ้อนจะนอนบ้านกาย”
ปราปต์หัวเราะมีเลศนัยก่อนจะก้าวเข้าไปใกล้ ๆ แล้วพูดอย่างชัดถ้อยชัดคำว่า
“คนเขาจะพูดกันว่ายังไงนะถ้ารู้ว่าครูอ้อนคนสวยแสนดีของลูกหลานเขาทำตัวเหลวแหลกขนาดนี้ ต่อไปคงไม่มีใครนับหน้าถือตา”
อารยาพูดไม่ออก เธอรู้ว่าปราปต์ร้ายแต่ก็ไม่คิดว่าจะร้ายขนาดที่รับไม่ไหวแบบนี้
“ว่ายังไง”
“ไม่เป็นลูกผู้ชายเอาซะเลย”
ปราปต์สะอึกกับคำบริภาษ แต่ก็ปรับสีหน้าได้อย่างรวดเร็ว อารยาทำให้เขาอยากเอาชนะเธอให้ได้โดยเฉพาะเรื่องนี้ ถ้าเธอหนีหน้าเขาก็จะตามให้เธอมาอยู่ในสายตาให้ได้ ไม่มีความต้องการอย่างอื่นแอบแฝงมากกว่านี้จริง ๆ
“เย็นนี้เจอกันนะครับครูอ้อน” ขยิบตาให้อย่างกวน ๆ ก่อนผิวปากเดินขึ้นรถอย่างสบายอารมณ์
อารยาอยากจะร้องไห้จริง ๆ ทำไมปราปต์ต้องทำกับเธอถึงขนาดนี้
หลังจากที่มือถือเครื่องเก่าพังกว่าจะได้เครื่องใหม่ก็
ต้องรอเงินเดือนออกก่อน ที่ผ่านมาอารยาใช้แท็บเล็ตไปพลาง ๆ บ่ายวันนี้เธอต้องมาทำธุระกับครูสิทธิเดชที่ในเมืองเลยถือโอกาสแวะร้านโทรศัพท์ถอยเครื่องใหม่และเปลี่ยนเบอร์ใหม่พร้อมกัน
“ขอบคุณครูเต้นะคะที่มาส่งอ้อนซื้อ” เพราะเธอติดรถมากับเขา ทีแรกคิดว่าชายหนุ่มจะไม่แวะเสียแล้ว
“ครูอ้อนอย่าถือเป็นบุญเป็นคุณเลยครับ เรื่องแค่นี้เอง” ครูสุดหล่อยิ้มตาหยี
เอาจริง ๆ สิทธิเดชเป็นที่หมายปองของครูสาว ๆ ในโรงเรียน แต่อารยารู้ว่าเป็นเพราะเธอที่ทำให้เขายังไม่เปิดใจให้ใคร
เขาเคยบอกชอบเธอเมื่อเดือนแรกที่หญิงสาวเข้ามาบรรจุในโรงเรียน แต่อารยาคิดกับเขาแค่เพื่อนและเธอนึกว่าเขาจะหายไปตั้งแต่ตอนนั้นแต่ไม่เลย สิทธิเดชเป็นลูกผู้ชายพอที่จะเป็นเพื่อนกับเธอต่อไป
ไม่เหมือนผู้ชายคนนั้น...
“เย็นนี้แวะทานข้าวไหนดีครับ”
คำชวนของสิทธิเดชทำให้สีหน้าของอารยาดูเป็นกังวลและอดมองนาฬิกาไม่ได้ เย็นนี้ปราปต์บอกว่าจะมาหาที่บ้าน ก่อนนี้เธอบอกประกายแก้วไว้แล้วว่าจะกลับมานอนบ้านตัวเองแต่พอดีมีธุระด่วนต้องเข้าเมืองมาเสียก่อน
“อ้อนต้องรีบกลับบ้านน่ะค่ะครูเต้”
สิทธิเดชหน้าเจื่อนไปเล็กน้อยแต่เขาก็ยังยิ้มได้ อารยาคงมีธุระด่วนที่บ้านจริง ๆ เลยตีรถกลับบ้านไม่แวะที่ไหนเลย แต่ท่าทางของเธอแปลกไปตอนที่เขาจอดรถหน้าบ้านแล้วจะช่วยถือของเข้าไปข้างใน
“เอ่อ ไม่เป็นไรค่ะครู อ้อนถือเข้าไปเองก็ได้ค่ะ”
“แต่หนักอยู่นะครับ” นอกจากซื้อมือถือแล้วอารยายังซื้อกระดาษเอสี่มาด้วยเป็นลัง ๆ รูปร่างบอบบางอย่างนี้เขากลัวจะยกไม่ถึงบ้านสักที
“ไม่เป็นไรจริง ๆ ค่ะอ้อนยกได้ อ้อนแข็งแรง”
ทำท่าเบ่งกล้ามให้เขาดู สิทธิเดชขำดัง ๆ อารยาน่ารักขนาดนี้เขาจะตัดใจง่าย ๆ ได้อย่างไรกันเล่า
“ครับ ๆ งั้นผมช่วยยกไปไว้ที่หน้ารั้ว ครูอ้อนจะได้ไม่ต้องยกไกล”
เอางั้นก็ได้ อารยายอมให้เขาทำแบบนั้นก่อนจะยืนส่งจนกว่ารถของเขาจะแล่นจากไป เธอรู้ว่าตอนนี้ปราปต์อยู่ในบ้านแล้วและอาจจะไม่พอใจที่เห็นเธอมากับครูเต้
ให้ตายเถอะ ! ทำไมเธอจะต้องมาเจอเรื่องแบบนี้ด้วย
“แหม มีความสุขจังเลยนะครับครู”
ผิดจากที่อารยาคิดเสียที่ไหน ปราปต์อยู่ในบ้านและปากที่คมยิ่งกว่ากรรไกรก็ทำงานทันทีที่เห็นหน้ากัน อารยาถึงกับกระแทกลังบรรจุกระดาษลงกับโต๊ะอาหารอย่างแรง
“ก็ธรรมดาค่ะคุณปราปต์” อดที่จะประชดไม่ได้จริง ๆ
ปราปต์ทำตัวเป็นหมาหวงก้างทั้งที่เขาก็มีคนของตัวเอง ช่างไม่ละอายใจเอาเสียเลย คนที่นั่งตรงโซฟาลุกขึ้นเดินมาหา อารยาไม่ทันตั้งตัวจึงถูกกระชากเข้าไปกอด
“นี่ ! จะพูดอะไรก็รีบ ๆ พูดมาแล้วก็กลับไปซะ”
“ไล่ผัวแบบนี้เลยหรือครู ใจร้ายฉิบหาย”
เขาเอาแต่พูดว่าเธอใจร้าย แล้วที่เขาทำกับเธอไม่เรียกว่าใจร้ายเลยสินะ
ทำไมไม่รู้อารยาถึงได้รู้สึกว่าอยากร้องไห้ ได้แต่กัดริมฝีปากข่มความรู้สึกทั้งหมดไว้พลางขยับดิ้นเพื่อให้หลุดออกจากเขาแต่ดูเหมือนมันช่างยากเย็นเหลือเกิน
“ฉันเคยบอกไปแล้วนะว่าเธอเป็นผู้หญิงของฉัน ไม่เข้าใจงั้นหรือว่าตัวเธอเองสามารถทำหรือไม่ทำอะไรได้บ้าง”
“อ้อนไม่ใช่ผู้หญิงของปราปต์ งามต่างหาก”
“งามเป็นแฟน” เขาสวนทันจนอารยาหน้าม้านน้ำตาซึม
ใช่สิ...เธอเป็นผู้หญิงที่เขาต้องเก็บเอาไว้ในความลับ
ส่วนฟ้างามคือคนที่เขารักและเชิดชูอย่างออกหน้าออกตา
“เมื่อไหร่ปราปต์จะเลิกยุ่งกับอ้อนเสียที” น้ำตาร่วงผล็อยลงมาอย่างห้ามไม่อยู่ ปราปต์สะท้อนในอกแต่เขาก็ให้คำตอบไม่ได้เหมือนกันว่าเมื่อไหร่
เอาเข้าจริงเขายังอยากจะมีอารยาอยู่ใกล้ ๆ แบบนี้ตลอดไปทั้งที่ก็รู้ว่าควรปล่อยเธอไป
เขามันช่างเห็นแก่ตัวจริง ๆ
“ยังตอบไม่ได้เหมือนกัน ขอคิดดูก่อนนะ”
อ้อมกอดของปราปต์รัดแน่นขึ้นกว่าเดิม เพิ่มเติมคือใบหน้าซุกซนฉกวูบลงมาบดเคล้าเรียวปากอิ่ม
ความต้องการที่เขามีต่ออารยามันอัดแน่นมานานเหลือเกิน เขาแทบไม่ได้แตะต้องตัวเองนับตั้งแต่วันที่อารยาเข้าโรงพยาบาลแล้วหนีหน้าเขาไปนอนบ้านประกายแก้ว
อารยาเองก็เช่นกัน...เธอต้องการปราปต์มากเหลือเกินแต่ติดที่ว่าเขาเป็นของคนอื่น แต่วันนี้เพียงแค่สัมผัสเล็กน้อยจากเขาก็ทำให้ความต้องการ
พลุ่งพล่านจนขนลุกขนพอง
“เกือบเดือนแล้วนะที่เราไม่ได้ทำอะไรกัน เธอคิดถึงรสชาติของฉันบ้างหรือเปล่า”
“หยุดเถอะปราปต์ อ้อนไม่อยากรู้สึกผิดกับงาม”
คำพูดของเธอทำให้ปราปต์เสียววาบในอก ใช่...ตอนนี้เขาเป็นแฟน
ฟ้างาม แต่ก็ไม่อยากปล่อยอารยาไปเหมือนกัน คิดว่าตนคงต้องใช้เวลาทำใจแต่ไม่รู้จะต้องใช้อีกนานแค่ไหนทั้งที่ก็ไม่ได้รู้สึกอะไรกับเธอเลยแท้ ๆ
ยิ่งคิดปราปต์ยิ่งสับสนจนไม่อยากจะคิดอะไรให้รกสมอง
“ปราปต์...”
อารยาพยายามดันเขาออกแต่ก็ไม่เป็นผล คนตัวใหญ่ครอบครองเรียวปากเธออีกครา คราวนี้เนิ่นนานราวกับว่าไม่อยากผละจาก เขามักมากจนทำให้เธอหายใจไม่ออก
“อ้อน”
เสียงหอบกระหายกระซิบชิดใบหูงาม ลมหายใจร้อนผ่าวพาให้เสียวซ่านจนขนลุกขนชัน
“ฉันยังไม่อยากคิดเรื่องนี้ให้มันรกสมอง”
“แต่ว่--”
พูดยังไม่ทันจบปราปต์ก็บดจูบอย่างร้อนแรงอีกครั้ง ก่อนจะสอดมือเข้ามาในเรือนผมพลางขยุ้มแรง เธอทั้งผลักทั้งดันเขาแต่ไม่มีทีท่าว่าจะทำให้ร่างหนาขยับเขยื้อน
เขายกสะโพกเธอขึ้นวางบนโต๊ะกินข้าว แล้วตรึงอารยาเอาไว้ในท่วงท่าที่ขยับหนีไมได้ ความปรารถนาเริ่มก่อตัวอย่างรวดเร็วเพราะจุมพิตเร่าร้อนดูดดื่ม ราวกับว่าปราปต์กระหายอยากลิ้มรสอารยามากมาย
“ปราปต์หยุด” ครั้งนี้เธอดันเขาออกสุดแรง
“เธอไม่ต้องการฉันจริงสิ ?” แน่นอนว่าอารยาโหยหาในตัวปราปต์อย่างมาก แต่เขามีแฟนแล้ว...เธอไม่อยากทำผิดอีก
“เราต้องหักห้ามใจตัวเองนะปราปต์”
“เธอทำไม่ได้หรอกอ้อน”
พูดอย่างคนที่ถือไพ่เหนือกว่า เขาไม่เชื่อว่าจะมีผู้หญิงคนไหนต้านทานความต้องการที่มีต่อเขาได้เช่นเดียวกับเขาที่ต้านทานไม่ไหวยามที่ได้อยู่ใกล้อารยา
เพราะแบบนี้กระมังที่ทำให้เขาโมโหทุกครั้งที่รู้ว่าหญิงสาวอยู่ใกล้ผู้ชายคนอื่น เขาไม่ไว้ใจใครเลย...กลัวพวกมันจะทำกับเธอแบบที่เขาเคยทำ
“มะ...ไม่นะ ปราปต์ อาห์”
ราวกับสติของอารยาหลุดลอยเมื่อเขาสอดมือเข้ามาลูบไล้เรียวขา แล้วบีบสะโพกกลมกลึงภายใต้กางเกงในเนื้อเนียนก่อนจะเบียดแทรกร่างกายเข้ามากลางหว่างขา
อารยาสัมผัสได้ว่าเขาพรักพร้อมแค่ไหน เพราะท่อนเนื้อของปราปต์กำลังพองโตและดุนดันราวกับจะทะลุออกมาจากกางเกง เร่งเร้าอารมณ์สาวจนนวลเนื้อนุ่มสั่นระริกและบีบรัดอย่างรวดร้าว
“ยอมเถอะ ขัดขืนไปก็เหนื่อยเปล่า”
ปราปต์กระซิบเสียงแหบพร่า แล้วก้มลงไปซุกไซ้แก้มขาว ความปรารถนาบิดเกลียวท้องไส้ของอารยาจนรวดร้าว สองขางามเปิดต้อนรับเขาอย่างอัตโนมัติ ลมหายใจของเขาหนักแน่นแต่ขาดห้วงยามที่พยายามดึงความเป็นชายออกมาจากกางเกง
อารยาครางกระเส่าเมื่อเขาผลักดันเข้ามา การต่อต้านของเธอหมดไปเหลือไว้แต่เพียงความต้องการที่เรียกร้อง เธอโหยหาปราปต์มากเหลือเกิน
